“ จอสวย กล้องคม โหมดฟิล์ม ซูมไกล เกมลื่น แบตฯอึด ชาร์จไว AI แข็งแกร่ง กันน้ำ”
ในที่สุดผมก็ได้จับ “OPPO Find X9 Series” ที่บอกได้เลยว่าในครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เรียกได้เลยว่าเป็น Major Change การแปลงโฉมครั้งใหญ่นี้จะว้าวขนาดไหน ผม “อ้ายจ่อย” จะรีวิว “OPPO Find X9 Pro” ให้ทุกคนได้รับชมกันครับ
“OPPO Find X9 Series” ในครั้งนี้บอกได้เลยว่าเป็นการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่เลย โดยไม่ได้มากับโมดูลกล้องกลม ๆ ขนาดใหญ่ตรงกลางอีกต่อไป เพราะเป็นดีไซน์ที่ถูกใช้มาหลายรุ่น OPPO เลยย้ายโมดูลกล้องไปไว้ด้านซ้ายของตัวเครื่อง แล้วปรับมาเป็นแบบสี่เหลี่ยม โดยออกแบบให้สมดุลรู้สึกพรีเมียมบนมือ สำหรับผมรู้สึกว่าดีไซน์ใหม่นี้ก็ให้ความเรียบหรูแปลกใหม่รู้สึกว่านี่สิสิ่งที่รุ่นใหม่ควรเป็นไม่การดีไซน์ที่เหมือน ๆ เดิม
“OPPO Find X9 Pro” มากับ 2 สีสุดมินิมอลสุดหรูอย่าง Silk White และ Titanium Charcoal ในส่วนของ “OPPO Find X9” มีให้เลือกซื้อถึง 3 สีเลย ไม่ว่าจะเป็นสีที่เหมือนกับ “OPPO Find X9 Pro” Titanium Grey สีสุดแฟอย่าง Velvet Red และสุดท้ายสีเข้ม ๆ ดูลึกลับ Space Black บอกได้เลยว่าสีสันสวยงามเป็นเอกลักษณ์ สีที่ผมชอบที่สุดคือ Velvet Red ที่จี๊ดจ๊าดจัดจ้านไม่เหมือนใคร ผมชอบเพราะเป็นสีที่เด่นแล้วก็สวยงามสุด ๆ
นอกจากความสวยงาม “OPPO Find X9 Pro” ยังดีไซน์มาให้ใช้งานสะดวกขึ้นด้วยปุ่ม Snap Key ที่เป็นปุ่มลัดที่สามารถปรับแต่งได้ และ Quick Button ที่ทำให้สามารถเปิดกล้องได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลา รวมไปถึงการซูม การกดชัดเตอร์ได้ง่าย ๆ ด้วยปุ่มนี้ ซึ่งจากการได้ลองใช้ก็รู้สึกว่าสะดวกจริง ๆ สามารถซูมและถ่ายได้ในนิ้วเดียว หรือ เจอช็อตที่ต้องการถ่ายแบบกระทันหันก็สามารถเปิดกล้องได้ง่ายขึ้น รวมไปถึง Snap Key ที่สามารถกดเรียก AI ขึ้นมาได้อย่างสะดวก ถือมือเดียวก็ใช้งานได้อย่างสะดวก
มาถึงไฮไลต์ของ “OPPO Find X9 Series” เรื่องของกล้องนับได้เลยว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของ OPPO Find X Series ที่ออกมากี่รุ่นกล้องก็จึ้ง ในรุ่นนี้ก็เช่นกันที่บอกเลยว่า “OPPO Find X9 Pro” ให้กล้อง Telephoto มาขนาดใหญ่ถึง 200MP แต่ก่อนที่จะไปไฮไลต์เด็ดเรามาดูที่กล้องหลักกันก่อนดีกว่า “OPPO Find X9 Pro” มากับกล้องหลักขนาด 50MP ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Real-Time Triple Exposure ที่ช่วยให้เก็บรายละเอียดแสงทั้งเงา ไฮไลต์ และโทนกลางได้ครบถ้วน จากการใช้จริงบอกได้เลยว่าถ่ายรูปได้คมชัดมาก ถ่ายพอร์ทเทรตก็บอกได้เลยว่าหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติเนียนสวยงามมาก ผมชอบมาก ๆ หรือจะถ่ายวิวถ่ายสตรีทก็ได้รูปที่สวยงามคมชัดมาก ๆ
โดยโหมด Portrait มีฟิลเตอร์สไตล์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้ไม่ว่าจะเป็น CCD ที่ให้โทนภาพที่คลาสสิกใช้งานกับแฟลชได้อย่างลงตัว หรือ ฟิลเตอร์ฟิล์มที่ให้โทนภาพแบบคลาสสิกย้อนยุค โทนเหมือนหนังอินดี้ชิค ๆ ก็สวยเช่นกัน นอกจากนี้ก็มีโหมดจำลองกล้องสุดอาร์ตอย่าง Hasselbald XPan พร้อมกับ AI Portrait Glow ที่ปรับให้รูปที่ถ่ายมีแสงที่เหมาะสม สมดุลทั้งภาพ ได้รูป Portrait ที่สวยงาม องค์ประกอบของรูปคมชัดสวยงามทุกรูปที่ถ่ายบอกเลยว่าจึ้ง
จะเป็น SmartPhone สายถ่ายคอนเสิร์ตได้แน่นอนกล้อง Telephoto ต้องมีคุณภาพสูง “OPPO Find X9 Pro” เครื่องนี้มากับกล้อง Hasselblad Telephoto 200MP จากที่ลองใช้ถ่ายจากที่นั่งบัตรดอยในคอนเสิร์ตเมื่อยก “OPPO Find X9 Pro” ขึ้นมาถ่าย ด้วยระยะซูมที่ซูมได้ไกลสุดถึง 120x บอกเลยว่าเหมือนนั่งอยู่ติดขอบเวทีชัดเจนมากเหมือนศิลปินอยู่ตรงหน้า หรือ เอาไปถ่ายดวงจันทร์ในวันที่จันทร์เต็มดวงก็ออกมาสวยคมชัดเป๊ะเวอร์ บอกเลยว่าใช้ได้กับทุกไลฟ์สไตล์ไม่ใช้เพียงแค่สายคอนเสิร์ต เอาไว้ถ่ายวิวบรรยากาศตอนไปเที่ยวซูมถ่ายสิ่งต่าง ๆ ก็เป๊ะปังเว่อร์
ในด้านของวีดีโอ “OPPO Find X9 Pro” ตัวนี้ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ไปคอนเสิร์ตก็อยากจะเก็บโมเม้นต์ดี ๆ ที่จะหาที่ไหนไม่ได้ก็สามารถใช้โหมดวีดีโอถ่ายในความละเอียด 4K 120FPS ชัดลื่นไหล นั่งไกล ๆ บัตรดอยก็ไม่หวั่นสามารถซูมในโหมดวีดีโอได้ไกลถึง 18x เก็บทุกโมเม้นต์บนเวทีได้อย่างครบถ้วน แถมยังมีฟีเจอร์การแต่งวีดีโอแบบต่าง ๆ ให้ได้ใช้อย่างการสร้าง Collage ที่เรียงวีดีโอ 3 วีดีโอสุดเก๋ ภาพสโลว์โมชั่นเท่ ๆ ด้วยความชัด 4K ก็สามารถทำได้ หรือ จะตัดต่อวีดีโอก็มีเครื่องมือ Master Cut มาให้ใช้งานได้เลย แถมยังใช้งานง่ายอีกด้วยนะมือใหม่ใครก็ใช้ได้
“OPPO Find X9 Pro” เครื่องนี้มากับ Mediatek Dimensity 9500 ชิปเซ็ตตัวท็อปของ Mediatek ที่บอกได้เลยว่าทั้งเร็วและเสถียร แถมยังประหยัดแบตฯด้วยนะ จากการทดลองเล่นเกมสามารถเล่นได้อย่างเสถียรอยู่ที่ 60 FPS ไม่ตกลงเกิน 59 FPS ถือว่าเล่นได้ลื่นตลอดเกม แถมการเล่นเกมก็ยังมี Hyper Boost ที่สามารถปรับแต่งให้เป็นโหมดเกมเพื่อให้เกมลื่นยิ่งขึ้นอีกด้วย เล่นนานเป็นชม. อุณภูมิก็ไม่สูงขึ้นอยู่ประมาณ 33-35 องศา ถือว่าเย็นเพราะว่าเขามีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่
“OPPO Find X9 Series” จะมากับแบตเตอรี่ขนาดสูงสุด 7500 mAh ซึ่งนับว่าใหญ่มาก ๆ พอใช้จริงก็ประหยัดมากชาร์จตั้งแต่วันศุกร์ใช้งานถึงวันจันทร์แบตฯก็ยังไม่หมดใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบาย ๆ ทั้งวันบอกเลยว่าตรงจุดนี้ดีมาก ๆ แถมยังมากับชาร์จเร็ว 80W SUPERVOOC และ 50W AIRVOOC ที่แบตฯหมดก็ชาร์จไวแปปเดียวเต็มไม่ต้องกังวลเรื่องแบตฯหมดอีกต่อไป
พูดถึงประสิทธิภาพกับการใช้งานรวมไปถึงการเสพสื่อบันเทิงแล้ว “OPPO Find X9 Pro” เครื่องนี้มากับหน้าจอ AMOLED 120Hz ขนาด 6.78” ความสว่างสูงสุด 3600nits รองรับ Dolby VISION, HDR10+ บอกได้เลยว่าทั้งดูหนัง, ดูซีรีย์, เล่นเกม ก็ชัดเจนสวยสดงดงาม แถมยังรู้สึกสบายตาด้วยระบบหรี่แสงแบบ PWM ที่บอกเลยเล่นนาน ๆ ก็ไม่รู้สึกปวดตาหรือง่วงเพราะตาล้า
“OPPO Find X9 Series” มาพร้อมกับ AI มากมายให้ใช้งานทั้ง AI ผู้ช่วยอย่าง Gemini ที่สามารถใช้ Gemini Live สอบถามพูดคุยกับ Gemini อย่าง Real Time หรือจะเป็น AI ของ OPPO ต่าง ๆ อาทิ AI Recording, AI Writer ที่บอกเลยว่าช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้นจริง แถมยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น Touch to Share สามารถส่งไฟล์และรูปภาพได้แค่แตะกันเพียงครั้งเดียว โดยแชร์ได้ทั้งระหว่างอุปกรณ์ OPPO และอุปกรณ์ Apple รวมไปถึงการสะท้อนหน้าจอขึ้น Mac ได้อย่างง่ายดายด้วยคีย์ลัด
นี่แหละเรือธงสุดคุ้ม จึ้งทุกด้าน ปังทุกไลฟ์สไตล์ ต้อง “OPPO Find X9 Series” ที่บอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ สนใจเป็นเจ้าของ “OPPO Find X9 Series” ก่อนใครพร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษ ได้ที่ ร้าน ทีจี ทุกสาขา หรือ ทุกช่องทางออนไลน์ของทีจี อาทิ เว็บไซต์, Shopee, Lazada และอื่น ๆ อีกมากมาย
